จากเกมที่ 10 ของฟุตบอลโลก 2018 โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทีมชาติไทย ออกไปแพ้ออสเตรเลีย แบบประทับใจ 1-2 ทำให้กลายเป็นนัดสุดท้ายในนาม “ช้างศึาก”ของ “ซุปเปอร์ตี๋”สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่ปิดฉากการเฝ้าเสาให้กับทีมมายาวนาน 14 ปี
นายทวารทีมชาติไทยจากสโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี เริ่มต้นในการค้าแข้งกับ ชลบุรี เอฟซี ซึ่งเจ้าตัวก้าวมาจากการเป็นเด็กของ อัสสัมชัญ ศรีราชา และพาทีมเป็นแชมป์ไทยลีก ปี 2007 แถมยังเคยได้รางวัล “บัลลงดอร์เมืองไทย” หรืองานเกียรติยศ “ฟุตบอลสยาม โกลเด้นบอล” ครั้งที่ 2 ปี 2011 ในฐานะนักเตะยอดเยี่ยมอีกด้วยก่อนที่ซีซั่น 2016 ก่อนที่จะย้ายไปอยุ่กับ “ช้างศึกยุทธหัตถี” ด้วยค่าตัวเวลานั้น 18 ล้านบาท
ถูกดันขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ในปี 2003 เกมแรกในแมตช์กระชับมิตรกับ เรอัล มาดริด เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม จากนั้นเป็นต้นมาเขามีชื่ออยู่กับทัพ “ช้างศึก”มาตลอด 14 ปีเต็ม ไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นโค้ชก็ตาม
ซุปเปอร์ตี๋”ได้บอกว่า “เป็นเกมที่สนุก และเป็นอีกนัดที่รู้สึกภาคภูมิใจ เพราะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้รับใช้ทีมชาติไทย ซึ่งผมตัดสินใจอยู่นานครับ (เลิกเล่นทีมชาติ) ผ่านไตร่ตรองด้วยเหตุและผล หลายๆอย่าง ผมถามหัวใจตัวเองมาตลอดว่า มันถึงเวลาแล้วหรือยัง วันนี้หลายๆอย่างมันประจวบเหมาะ และนี่คือเวลาที่เหมาะสมสุดแล้ว”
“แน่นอนว่า การรับใช้ทีมชาติมันคือที่สุด และเป็นความฝันของผม ช่วงที่เวลาผ่านมา 14 ปี ถามว่านานไหม บางครั้งก็รู้สึกว่านาน บางครั้งก็รู้สึกว่าเร็ว มันอธิบายยาก แต่ที่สุดแล้ว วันนี้ก็ต้องมา ผมทำดีที่สุดแล้ว และผมมีความสุขในทุกๆวินาทีกับทีมชาติ”
“ผมได้บอกน้องๆในห้องแต่งตัวแล้วว่า ที่สุดของฟุตบอล คือการเล่นให้ทีมชาติไทย ไม่ว่าคุณจะได้แชมป์อะไรมากับสโมสร แต่การติดทีมชาติคือเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจ เหนือกว่าสโมสรอยู่แล้ว อยากให้พวกเขารับมือกับความกดดันหลายๆด้าน ทั้งในและนอกสนามให้ได้ และที่สำคัญเป็นกำลังหลักให้กับ ฟุตบอลไทย ในการพัฒนาต่อไป ผมหวังว่าวันหนึ่ง ผมจะโอกาสได้ตอบแทน ฟุตบอลไทย ในบทบาทใด บทบาทหนึ่ง”