คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ลูกหนังของ เรอัล มาดริด ถูกจัดให้เป็นนักกีฬาที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 2 ปีติดต่อกัน โดยการจัดอันดับของ “ฟอร์บส์” นิตยสารธุรกิจ และเศรษฐกิจจากสหรัฐอเมริกา
ภายหลังพาทีมชาติโปรตุเกส ประสบความสำเร็จในศึกยูโร 2016 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กัปตันวัย 32 ปีจาก เรอัล มาดริด รายนี้ ได้รับเงินตอบแทนถึง 93 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ หรือประมาณ 3,162 ล้านบาท โดยคิดทั้งจากเงินเดือน โบนัส และเงินสนับสนุนต่างๆ ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวส่งผลให้รายได้ของซูเปอร์สตาร์รายนี้เพิ่มขึ้นถึง 5 ล้านดอลล่าห์สหรัฐต่อปี (170 ล้านบาท)
สำหรับการจัดอันดับในแต่ละครั้ง จะคัดเลือกนักกีฬาจากชนิดกีฬาที่แตกต่างกัน โดยในครั้งนี้ มีนักกีฬาบาสเกตบอลจาก เอ็นบีเอ ติดโผลิสต์นักกีฬาร่ำรวยที่สุดมาถึง 32 คน ตามมาด้วยนักกีฬาเบสบอล 22 คน, อเมริกันฟุตบอล 15 คน และฟุตบอล 9 คนตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม รายได้ของนักกีฬาปีนี้ทั้ง 100 อันดับรวมกันมีมูลค่า 3.11 พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ (105,740 ล้านบาท) ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่า 3.15 พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ (107,100 ล้านบาท)
ส่งผลให้ดาวเตะวัย 31 ปี กลายเป็นเจ้าของนักกีฬาที่มีรายได้มากที่สุดในโลก แซงหน้านักกีฬาประเภทอื่นๆได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ ฟอร์บส์ เริ่มทำการจัดอันดับครั้งแรกตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา
ขณะที่อันดับที่ 2 ตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ของ บาร์เซโลน่า ส่วนอันดับ 3 เป็น เลบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลสังกัด คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส
10 อันดับนักกีฬาที่มีรายได้ต่อปีมากสุด
1.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ฟุตบอล) 88 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3,080 ล้านบาท)
2.ลิโอเนล เมสซี่ (ฟุตบอล) 81.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,849 ล้านบาท)
3.เลบรอน เจมส์ (บาสเกตบอล) 77.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,702 ล้านบาท)
4.โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ (เทนนิส) 67.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 2,373 ล้านบาท)
5.เควิน ดูแรนท์ (บาสเกตบอล) 56.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,977.5 ล้านบาท)
6.โนวัค ยอโควิช (เทนนิส) 55.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,953 ล้านบาท)
7.แคม นิวตัน (อเมริกันฟุตบอล) 53.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,858.5 ล้านบาท)
8.ฟิล มิคเคลสัน (กอล์ฟ) 52.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,851.5 ล้านบาท)
9.จอร์แดน สปิธ (กอล์ฟ) 52.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,848 ล้านบาท)
10.โคบี้ ไบรอัน (บาสเกตบอล) 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,750 ล้านบาท)